วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

กระท้อนดับพิษร้อน - อาหารแทนยา

คนไทยนั้นได้ชื่อว่าเป็นนักชิมและนักคิดค้นตำรับอาหารจานอร่อยมาแสนนาน แม้แต่ผลไม้รสเปรี้ยวอมฝาดสุดใจขาดดิ้นอย่างกระท้อน คนไทยยังนำมาทำขนมหรือปรุงเป็นอาหารทานได้หลายต่อหลายสูตร



ฉะนั้น ประโยคที่ว่า "กระท้อน" ยิ่งทุบยิ่งหวาน ซึ่งได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วนั้น คงไม่ใช่ว่ากันไปเล่น ๆ เป็นแน่

ที่ฝรั่งเศสเขายังมีเทคนิคทำนองเดียวกับกระท้อนของเราเลย คือก่อนที่จะดื่มไวน์อย่างแสนโแมนติกนั้น วิธีที่ถูกต้องควรเขย่าแก้ไวน์ก่อน เพื่อเป็นการปลุกเร้าให้ไวน์ตื่น จากนั้นเมื่อจิบไวน์เราจึงจะได้รสที่แสนนุ่มชุ่มใจไงละ คงเหมือนการรับประทานกระท้อนของบ้านเรา ต้องทุบเพื่อปลุกไล่รสฝาดให้กระเจิดกระเจิงแตกซ่าน มีรสหวานแทรกผ่านขึ้นมาให้ได้อร่อยลิ้น



คนไทยเรานิยมปลูกต้นกระท้อนเพื่อนำความร่มรื่นมาสู่บ้านและกระท้อนยังเป็นไม้มงคลที่เชื่อว่า สามารถสะท้อนความเจริญรุ่งเรืองให้ก้องไปไกลแสนไกล

กระท้อนเป็นไม้ขนาดกลางถึงใหญ่มีทั้งลูกเล็ก ๆ รถฝาดเปรี้ยวสุดฤทธิ์ และผลโตเนื้อขาวเหมือนปุยเมฆ มีรสหวานซ่อนเปรี้ยวในแบบของกระท้อนห่อ นำมารับประทานกับน้ำตาล หรือพริกเกลือก็ได้รสถึงใจ หรือดัดแปลงเป็นผลไม้แช่อิ่มทรงเครื่องก็ได้รสเด็ดขาดบาดใจ

กระท้อนมีใบสีเขียวมันปลาบ ผลสีน้ำตาลอมเหลือง ยามฝนโปรยชุ่มลายดิน พ่อบ้าน แม่บ้านคงไม่ต้องนึกเมนูแสนอร่อยในวันนั้นให้วุ่นวาย ไปเก็บกระท้อนมาสักตะกร้าน้อย ๆ แบ่งให้ลูกรับประทานสน ๆ กับพริกเกลือ ที่เหลือนำมาปรุงเป็นอาหารรสอร่อยได้อีกต่างหาก



ไม้ไทยไม่ว่าใบหรือผลก็มีสรรพคุณทางยา รากของต้นกระท้อนนั้นหากนำมาสุมไฟพอให้เป็นถ่าน สามารถนำมารับประทานแก้ไข้ตัวร้อนได้อย่างชะงัด บำบัดอาการไข้รากสาดและโรคบิดได้อีกต่างหาก แม้เพียงรับประทานผลของมันก็ยังช่วยระบายท้องได้อย่างดี เรียกว่ามีประโยชน์ทั้งทางด้านโภชนาการและความร่มรื่นภายในบริเวณบ้าน ให้ทั้งความหมายที่เป็นสิริมงคลอเนกอนันต์

หากรับประทานกระท้อนห่อจนเข็ดฟันแล้ว ลองนำมาปรุงเป็นอาหารคาวรับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ดูบ้างจะเป็นไร แก้หนาวแก้เซ็งหัวใจ ระบายท้องดับพิษไข้ได้ดีอีกต่างหาก